Blog

ปรัชญาเรจจิโอ เอมิเลีย: มันคืออะไร และส่งผลต่อปรัชญาของเราอย่างไรที่โรงเรียนนานาชาติเลิฟเวลล์   เข้มแข็ง มีความสามารถ และยืดหยุ่น คำสามคำนี้คือหัวใจสำคัญที่แนวทางเรจจิโอ เอมิเลียใช้ในการอธิบายศักยภาพของเด็กทุกคน เด็กเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์และความอยากรู้อยากเห็นในโลกกว้าง และพร้อมที่จะค้นหาสถานที่ของตนเองในโลกใบนี้ ที่โรงเรียนนานาชาติเลิฟเวลล์ แนวทางเรจจิโอ เอมิเลียเป็นพื้นฐานในการจัดการเรียนการสอนระดับปฐมวัย และเป็นแนวทางในการจัดโครงสร้างกิจกรรมสำหรับนักเรียนระดับประถมของเรา ทั้งนี้ ควรทราบว่าเรจจิโอ เอมิเลียไม่ใช่หลักสูตร แต่เป็นรากฐานที่หลักสูตรของเราเสริมสร้าง เหมือนชั้นหินของโลก   ปรัชญาเรจจิโอ เอมิเลีย มีที่มาอย่างไร? ปรัชญาเรจจิโอ เอมิเลีย มีต้นกำเนิดในเมืองเรจจิโอ เอมิเลีย ประเทศอิตาลี โดยเริ่มจากขบวนการที่สนับสนุนการศึกษาปฐมวัยแบบก้าวหน้าและเน้นความร่วมมือ แนวทางนี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของภูมิภาค และไม่ได้เป็นวิธีการที่มีมาตรฐานตายตัว ทั้งนี้ ไม่มีโปรแกรมฝึกอบรมระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการสำหรับการเป็น “ครูเรจจิโอ เอมิเลีย” โรงเรียน ศูนย์ปฐมวัย หรือแม้กระทั่ง home schooling ที่นำปรัชญานี้ไปใช้ จะเรียกว่า “Reggio-inspired” หรือ “ได้รับแรงบันดาลใจจากเรจจิโอ” และมักจะปรับแนวทางนี้ให้เหมาะสมกับความต้องการของชุมชนและหลักสูตรเฉพาะของแต่ละโรงเรียน   ความยืดหยุ่นนี้คือจุดเด่นของแนวทางเรจจิโอ เอมิเลีย ซึ่งเน้นว่าแต่ละชุมชน เด็ก ครู และผู้ปกครองล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว […]

“โปรดโอบกอดมนุษย์ลูก” หนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งในหนังสือในห้องสมุดของเรา เป็นหนังสือที่ตั้งไว้บนหมวดหนังสือที่อยากให้พ่อแม่ทุกคนได้มีโอกาสหยิบมาอ่านสักครั้ง…. เป็นหนังสือที่คุณวีรพร นิติประภาได้รวบรวมบันทึกการเลี้ยงดู “มนุษย์ลูก” อย่างเข้าใจและเต็มไปด้วยความรักที่ไม่พยายามครอบครองหรือควบคุมชีวิตลูก แต่ยืนเคียงข้างอย่างเข้าใจและปล่อยให้ลูกได้เติบโตเป็นตัวของตัวเอง  คุณวีรพรไม่ได้ให้คำตอบตายตัวว่าการเลี้ยงลูกที่ดีคืออะไร แต่ทำให้เราได้กลับมาทบทวนความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูกผ่านมุมมองของความรัก ความเข้าใจ และการปล่อยวางอย่างอ่อนโยน หากจะสรุปสั้นๆ ออกมาแล้วจะพอมีใจความว่า การเลี้ยงลูกคือการโอบกอด ไม่ใช่การครอบครองพ่อแม่ควรมอบความรักและพื้นที่ให้ลูกเติบโตอย่างอิสระ ไม่ควบคุมหรือสร้างกรอบให้ลูกต้องเป็นไปตามความคาดหวังของตัวเอง การเติบโตของพ่อแม่ไปพร้อมกับลูกหนังสือเน้นว่าการเลี้ยงลูกไม่ใช่แค่การสอนเด็ก แต่เป็นกระบวนการที่พ่อแม่เองก็ต้องเรียนรู้และเติบโตไปพร้อมๆ กัน โดยเฉพาะการยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเองและลูก ความเข้าใจตัวตนของลูกลูกเป็น “มนุษย์” ที่มีความคิด ความฝัน และตัวตนของเขาเอง พ่อแม่ควรรับฟังและเปิดโอกาสให้ลูกแสดงออกอย่างแท้จริง ไม่บังคับให้เขาต้องเดินในเส้นทางที่พ่อแม่ขีดไว้ การปล่อยมืออย่างอ่อนโยนหน้าที่ของพ่อแม่คือการ “โอบกอด” ให้ความอบอุ่นและปล่อยมือเมื่อลูกพร้อมจะก้าวไปข้างหน้า พ่อแม่ต้องเรียนรู้ที่จะเชื่อมั่นในลูกและปล่อยให้เขาเผชิญชีวิตด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบคุณวีรพรเน้นย้ำว่าความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูกไม่ต้องสมบูรณ์แบบเสมอไป ความผิดพลาด ความไม่เข้าใจกัน คือส่วนหนึ่งของการเรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน บทส่งท้ายของหนังสือเล่มนี้คุณวีรพรกล่าวว่า “ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า” เพียงแค่ประโยคนี้ก็เพียงพอแล้วที่เราจะหยิบยื่นทุกสิ่งดีๆ ต่อกัน เพราะด้วยเวลาชีวิตอันแสนสั้นที่เรามี หรือความไม่แน่นอนของโลกใบนี้ ไม่มีเหตุผลเลยที่เราจะมาเสียเวลากดดันกัน หรือหยิบยื่นสิ่งไม่ดีต่อกัน จบจากการอ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว ท้ายที่สุดเราควรจะโอบกอดความไม่สมบูรณ์แบบและมอบความรักอย่างมีสติให้กับ “มนุษย์ลูก” เพื่อให้พวกเขาเติบโตอย่างงดงามในแบบของตัวเองได้ CREDIT: หนังสือ“โปรดโอบกอดมนุษย์ลูก” โดย วีรพร นิติประภา

พัฒนาการด้านอารมณ์ของเด็ก: รากฐานสำคัญสำหรับความสุขและความสำเร็จในชีวิต “อารมณ์คือการตีความของสมองเกี่ยวกับความรู้สึกทางกายที่สัมพันธ์กับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเราในโลก” มีเพลงดังจากวงเดอะบีเทิลส์ในยุค 1960 ที่กล่าวไว้ว่า “สิ่งที่คุณต้องการมีเพียงความรัก” แนวคิดนี้ยังคงเป็นจริงสำหรับคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันไม่ต่างจากในอดีต ในบริบทของการศึกษาปฐมวัย พื้นฐานที่แข็งแกร่งที่สร้างขึ้นบนความรักถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่ Lovell เราเชื่อว่า การพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์และการรักตนเองเป็นหัวใจสำคัญของความสุขและความสำเร็จในชีวิต เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานของการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม และทำให้เรายอมรับตัวเองและผู้อื่นได้ในขณะที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสมดุล   แนวทางการพัฒนาปฐมวัยของเรา ที่ Lovell เรามีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนพัฒนาการด้านอารมณ์ของเด็กอย่างแท้จริง โดยครูผู้เชี่ยวชาญด้านปฐมวัยของเรารู้ว่าความรักและความปลอดภัยคือหัวใจของทุกความสัมพันธ์ เด็กต้องการความเคารพ การสนับสนุน และความไว้วางใจจากผู้ใหญ่ เพื่อให้พวกเขาสามารถพัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพ สิ่งสำคัญที่เด็กต้องการ ได้แก่: ความเคารพและการยอมรับในตัวตน การดูแลเอาใจใส่และขอบเขตที่เหมาะสม ความปลอดภัยทั้งทางร่างกายและจิตใจ พื้นที่สำหรับการเติบโตและแสดงความเป็นตัวเอง เข้าใจพฤติกรรมและสมองของเด็ก “หากคุณต้องการเหตุผลเพียงข้อเดียวที่จะอดทนกับลูกของคุณในยามที่พวกเขาแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม นี่คือเหตุผล: สมองของเด็กยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ และในบางครั้ง พวกเขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์และร่างกายได้จริง ๆ”— ดร. แดน ซีเกล   เมื่อเราเข้าใจเรื่องนี้ในฐานะผู้ใหญ่ เราจะมองเห็นการแสดงออกของอารมณ์ เช่น การโกรธหรืออาละวาดต่างออกไป พฤติกรรมเหล่านี้ไม่ใช่การที่เด็กจงใจต่อต้านเรา แม้บางคนอาจมองว่าเป็นเช่นนั้น นักประสาทวิทยา ลิซ่า เฟลด์แมน บาร์เร็ตต์ อธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในสมองและระบบประสาทของเด็ก ซึ่งช่วยให้เราเข้าใจสิ่งที่เด็กกำลังเผชิญอย่างถูกต้องยิ่งขึ้น เธอกล่าวว่า:

เลี้ยงเด็ก Gen Alpha ไม่ง่าย แต่ทำได้หากเข้าใจถึงแก่นแท้ของตัวตน เรียนรู้ไปด้วยกันกับคุณโบ พัทธมน เมฆะวรากุล คุณแม่รุ่นใหม่ที่พร้อมเติบโตทางจิตวิญญาณไปด้วยกันกับลูก   เลี้ยงเด็ก Gen Alpha: ทำความเข้าใจกับตัวตนและความต้องการ เด็กยุค Gen Alpha คือกลุ่มเด็กที่เกิดในช่วงปี 2010 เป็นต้นมา ซึ่งเติบโตในยุคดิจิทัลที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเลี้ยงเด็ก Gen Alpha ให้มีความสุขและพร้อมรับมือกับอนาคต จำเป็นต้องเข้าใจตัวตนของพวกเขาในเชิงลึก คุณโบ พัทธมน เมฆะวรากุล ได้แบ่งปันประสบการณ์การเลี้ยงลูกและแนวคิดสำคัญที่ช่วยสร้างเด็กให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์   หัวใจสำคัญของการเลี้ยงเด็ก Gen Alpha คุณโบเน้นย้ำว่า “การยอมรับในความเห็นต่าง การสร้างสันติ และการรู้จักรักเป็น” เป็นหัวใจสำคัญที่เธอต้องการปลูกฝังให้กับเด็กและพ่อแม่ในยุคนี้ การเลี้ยงเด็ก Gen Alpha ไม่ใช่เพียงการสร้างความสำเร็จในหน้าที่การงานหรือเงินทอง แต่คือการสร้างความสุขและความสามารถในการรักตนเองและผู้อื่น   ช่วงทองของการพัฒนาตัวตน: 0-6 ปี ในช่วงวัย 0-6 ปีแรกของชีวิต เด็กจะพัฒนาตัวตนและจิตใจอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด คุณโบกล่าวว่า การเลี้ยงเด็ก Gen